no more thinking - no more thinking นิยาย no more thinking : Dek-D.com - Writer

    no more thinking

    ผู้เข้าชมรวม

    98

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    98

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 57 / 17:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารขนาดนี้มาก่อน

      เขาบอกว่าคนที่ไม่รู้ตัวเองคือคนที่น่าสงสาร ไม่เคยเลยตั้งแต่เกิดมาว่าจะไม่รู้ตัวเองขนาดนี้ เอาจริงๆแล้วเราอยู่กับตัวเองมามาก ใช้เวลากับตัวเองมามาก ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ สิ่งที่ทำให้น่าสงสารอาจไม่ใช่ประเด็น วันนี้ตั้งแต่ดูหนังเรื่องนึงมา ก็ทำให้เราต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราต้องการอะไร ความสุขหรือเงิน พูดจริงๆว่าสิ่งที่กำลังเครียดอยู่ตอนนึ้คือเรายังตัดสินใจไม่ได้ ว่าเราจะเรียนคณะอะไรดี แม้ว่าเราจะพูดได้อย่างเต็มปากแล้วก็ตามว่าตอนนี้เราติดพยาบาลแล้ว แต่ความรู้สึกมันไม่เป็นอย่างนั้น เรายังคงฝังใจกับคำว่านิเทศไม่เลิกรา แม้จะรู้ว่าคะแนนแอดเราไม่ถึงแล้วก็ตาม ก่อนหน้านี้เราเคยอยากเป็นหมอมาก พอไม่ติดหมอแล้วมาติดพยาบาล มันก็ไม่เฟลมากเท่าไหร่ แต่แค่มันยังรู้สึกว่ายังตั้งตัวไม่ทัน สำหรับคณะนี้ เพราะจริงๆแล้วเราเพิ่งรู้จักมันไม่นาน มันเลยทำให้เรายังไม่แน่ใจ ตอนก่อนจะติดพยาบาลเราได้ดูหนังอยู่เรื่องนึงนั่นคือ time line บอกตามตรงว่าหลังจากดูเรื่องนี้เสร็จแรงบันดาลที่เราอยากทำหนังอยู่แล้วก็มากขึ้นไปอีก

      ถึงขนาดตั้งไว้เลยว่าจากนี้ไปถ้าหมอไม่ได้เราจะไม่เสียใจเพราะเราก็ชอบนิเทศเหมือนกัน แต่ตอนนี้ที่ติดพยาบาลแล้วคือมันไม่ใช่ทุกอย่างเหมือนเริ่มใหม่ ไม่ได้บอกว่าคณะนี้ไม่ดี มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เราอยากเรียนคณะนี้ แต่มันก็เป็นแค่เหตุผลที่เราพยายามจะสร้างมันขึ้นมา เพื่อให้เรารู้สึกว่าเราชอบมันนะ เราอยู่กับมันได้ และมันเป็นคณะที่ดีด้วย เพราะมันได้ช่วยคนอย่างที่เราอยากเป็นหมอตอนแรก และ อาชีพนี้มั่นคงกว่านิเทศมาก เหตุผลเยอะจริงๆในการเอนมาทางพยาบาล ครั้งต่อมาเราดูหนังเรื่องที่สองที่เป็นแรงบันดาลใจอย่างนึง คือ คิดถึงวิทยา ตั้งแต่เราดูแนวนี้มาเราก็รู้สึกว่ามันได้อะไรหลายๆอย่างจากหนัง ด้วยความที่เรามองหนังแบบคิดถึงสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อ เรายิ่งชอบสิ่งที่เขาทำ เขาเหมือนกำลังสอนเราผ่านจากหนัง ซึ่งประทับใจมากบอกเลย... หลายๆคนอาจจะบอกว่าเรียนพยาบาลจบมาก็ทำหนังได้ ใช่! แต่! กว่าที่เราจะได้ทำล่ะ ถ้าเราต้องเรียนเพื่อรอคอยสิ่งนี้อ่านะ มันก็ไม่ควรจะเรียนตั้งแต่แรก ทรมานตัวเอง เรียนแล้วเพื่อรออะไรสักอย่างเนี่ย...มันไม่โอ!! มีคนบอกว่า ถ้าชอบมากขนาดนั้นทำไม ไม่เข้านิเทศไปเลย เหอๆถ้าได้นิเทศจุฬาก็คงจะดี แต่มันไม่ได้ไง คือดูจากคะแนนแล้วความเป็นไปได้ต่ำ แต่เขาแค่บอกให้ลองดู ว่าเราจะทำได้มั้ย!!!! กำลังคิดว่าตอนนี้มันคือช่วงเวลาอะไรกันแน่ ช่วงเวลาในการค้นหาตัวเองหรือช่วงเวลาที่เราจะมาเรียนรู้ดีกว่าพยาบาลเราโอเคมั้ย ถ้าเราบอกไม่โอเคตั้งแต่ตอนนี้ เราก็มุ่งมั่นอ่านเพื่อสอบเข้านิเทศไปเลย จบ!! แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นด้วยความที่เราไม่เลือกเอาสักอย่างถึงต้องมาลำบากใจอยู่ทุกวันนี้ ตั้งแต่อ่านหนังสือของนิ้วกลมมา ก็บอกเลยว่าชอบมาก คือชีวิตเขาค่อนข้างมีอิสระและมองในมุมที่แตกต่าง แต่สิ่งที่เขาพูดบางอย่างมันก็เป็นไปไม่ได้ เขากินแรงบันดาลใจเป็นอาหาร แต่สังคมเรากินเงินเป็นอาหาร ก็เอาสิ อยากให้โลกนี้ไม่ต้องคิดถึงว่า เงินหน้าตาเป็นยังไง เราอาจจะทำในสิ่งที่เราต้องการมากขึ้นอีกเยอะเลย เรียนนิเทศแล้วไม่มั่นคง บอกตามตรงว่าเบื่อคำนี้ ก็ใช่มันเป็นเรื่องจริงที่เราต้องยอมรับ แต่เราอยากทำและคนรอบข้างบีบให้เรารู้สึกว่า เรากินแต่แรงบันดาลใจอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ มันก็ยิ่งทำให้เราต้องเลือกพยาบาลมากขึ้น

      บนโลกนี้เราก็สร้างเงื่อนไขให้มากเกินไป จนเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอย่างที่เราอยากทำเลย...

      ตอนนี้คงต้องนั่งถามตัวเองใหม่แล้วว่า สุดท้ายแล้ว เราจะเลือก....อะไร....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×